ความรัก ยาพิษแห่งความรัก
อย่าเสียใจหรือเจ็บเลย… เพราะ “ความรักบางครั้งก็เป็นทั้งยาวิเศษและยาพิษ”
พวกเราทุกคนเติบโตมากับภาพฝันสวยงามของความรัก
ภาพของคนสองคนที่เดินเคียงกัน จับมือและมองตากัน
ด้วยแววตาที่บอกว่าไม่มีใครสำคัญไปกว่ากันแล้ว
แต่ใครจะรู้บ้างว่า ความจริงของความรัก
ไม่ได้สวยงามเหมือนที่เราวาดฝันไว้เสมอไปนะครับ
และในบางครั้ง มันอาจเป็นเหมือนแสงแดดอุ่นที่โอบกอดหัวใจ
แต่ในบางครั้งมันกลับแผดเผาเราอย่างช้า ๆ เจ็บลึกลงไปในกระดูก
บางครั้งความรักเหมือนยาวิเศษที่เยียวยาความเหงา ความเศร้า ความว่างเปล่าของชีวิต
แต่ในขณะเดียวกันมันก็เหมือนยาพิษที่ซึมเข้าสู่หัวใจ ค่อย ๆ ทำลายเราอย่างไม่รู้ตัว
เราหลงคิดว่าการรักใครสักคนคือการมอบหัวใจให้เขาไปทั้งดวง
ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขารู้ว่าเรารักเขามากแค่ไหน
ยอมเจ็บ ยอมร้องไห้ ยอมอดทน เพราะเราหวังว่าสักวันเขาจะเห็นคุณค่าของหัวใจที่เรามอบให้
แต่สุดท้ายสิ่งที่เราได้รับกลับมาคือความเงียบครับ
คำพูดที่เย็นชา หรือแม้กระทั่งการถูกทิ้งให้อยู่กับความว่างเปล่าที่เราไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้
มันเจ็บ… มันเจ็บมาก… เจ็บจนแทบหายใจไม่ออก
แต่เจ็บที่สุดคือตอนที่เรารู้ตัวว่า
ที่จริงแล้ว เราไม่สามารถโทษใครได้เลย
เพราะเราเป็นคนที่เลือกเดินเข้ามาในความรักนี้เอง
เราเป็นคนที่ยื่นหัวใจให้เขาเอง
เราเป็นคนที่เลือกจะรักโดยไม่เงื่อนไข
และเมื่อเราถูกหักหลังหรือถูกทำร้าย
เราก็ต้องเป็นคนที่ถอนพิษนี้เองด้วยมือของเรา
ไม่มีใครที่จะมาช่วยเราได้นอกจากตัวของเราเอง
และไม่มีคำปลอบใจที่ลบล้างความเจ็บได้จริง
ไม่มีใครที่จะมาเย็บแผลนี้แทนเราได้
เราคือคนที่ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะปล่อยให้พิษนี้กลืนกินหัวใจของเราไปจนตาย
หรือจะลุกขึ้นมา ถอนพิษ และก้าวไปข้างหน้า
และนำมันเป็นบทเรียน ใช้มันเป็นเกาะป้องกัน
เพราะความรักไม่ใช่เทพนิยายที่สวยหรูและจบแบบแฮปปี้ทุกคู่
แต่เป็นแค่ “บางคน” เท่านั้น
และโลกนี้ก็ไม่ใช่โลกที่ทุกเรื่องราวจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง
บางครั้งรักก็เป็นเหมือนดาบสองคม
ที่ด้านหนึ่งคือความสุขอันหอมหวาน
แต่ด้านอีกข้างคือความเจ็บปวดที่เฉือนลึกเข้าไปถึงกระดูกดำ!!
แต่คุณรู้ไหม?
แม้จะเจ็บสักแค่ไหน แม้จะร้องไห้จนไม่มีน้ำตาเหลือ
เราก็ยังไม่หมดคุณค่า
เราไม่ใช่คนที่อ่อนแอหรือพ่ายแพ้ เพียงเพราะเรารักอย่างหมดหัวใจ
การที่เราเจ็บปวดเพราะรัก ไม่ได้ทำให้เราน้อยค่า
แต่กลับทำให้เราเข้าใจหัวใจตัวเองมากขึ้น
เข้าใจว่าความรักไม่ใช่สิ่งที่จะมอบให้ใครได้ง่าย ๆ
และเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกว่าจะมอบหัวใจให้ใครที่คู่ควร
ดังนั้น ถ้าวันนี้คุณเจ็บเพราะความรัก…
จงอย่าซ้ำเติมตัวเอง
จงอย่าดูถูกตัวเอง
จงอย่าปิดหัวใจแล้วบอกว่าคุณไม่คู่ควรกับความรัก
แต่ให้บอกกับตัวเองว่า
คุณเจ็บเพราะคุณมีหัวใจที่กล้า
คุณรักอย่างเต็มที่
และนั่นคือพลังของคุณเอง
เหมือนกับเรื่องที่ผมเขียนไปก่อนหน้านี้
พลังในการอยู่คนเดียว
จงใช้ชีวิตให้มีความสุขซะ คุณต้องก้าวผ่านมันได้แน่นอน
จบ
เชื่อในตัวคุณเอง
บางครั้งการถอนพิษแห่งความรัก
ไม่ใช่การลืม ไม่ใช่การทำเป็นไม่รู้สึก
แต่คือการเผชิญหน้ากับมันอย่างตรงไปตรงมา
ยอมรับว่ามันเจ็บ ยอมรับว่ามันทรมาน
แต่ก็รู้ด้วยว่าคุณเข้มแข็งพอที่จะผ่านมันไปได้
และคุณก็จะผ่านมันได้อย่างแน่นอน
และวันหนึ่ง เมื่อหัวใจของคุณหายดี
คุณจะพบว่าตัวคุณเองนั้นงดงามและทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
และคุณจะรักตัวเองมากขึ้น
เข้าใจความรักในแบบที่ลึกซึ้งกว่าเดิม
และรู้จักเลือกที่จะรักคนที่คู่ควรกับหัวใจของคุณ
เพราะสุดท้ายแล้ว…
ใครกันเล่าที่จะถอนพิษแห่งความรักได้นอกจากตัวคุณเอง
ไม่มีใครอื่น นอกจากตัวคุณเอง
บทที่ 1 — แผลสดที่ไม่เคยสมาน
ความรักบางครั้งไม่ต่างอะไรจากมีดคมที่กรีดลึกลงไปในใจ
ทิ้งรอยแผลสดที่ไม่มีวันสมาน แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร
รอยแผลนั้นก็ยังคงอยู่ ไม่จาง ไม่หาย
มันกลายเป็นรอยแผลที่เตือนใจ
ว่าครั้งหนึ่งเราเคยรักใครสักคนมากเกินไป
จนลืมที่จะรักตัวเอง
ผมจำได้ดี ตอนที่ผมเดินออกมาจากความสัมพันธ์นั้น
หรือเพราะผมยังเด็กเกินไปกันแน่
แต่ผมคิดว่า มันไม่ใช่การจากลาที่สงบหรือสวยงาม
แต่มันเป็นการลากหัวใจออกจากกรงที่ขังความรักไว้
ลากทั้งน้ำตา ความทรมาน และความรู้สึกผิดที่เราไม่อาจลืมได้ง่าย ๆ
ผมถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ว่าทำไมเราถึงยอมให้ตัวเองเจ็บปวดขนาดนี้
ทำไมเราถึงยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อรักที่ไม่เคยรักเรา
แต่คำตอบก็ยังคงเหมือนเดิม —
เพราะเรารัก เรารักมากเกินไป
รักจนลืมว่าตัวเองก็มีค่า
รักจนลืมว่าความรักที่แท้จริงไม่ควรทำให้เราเจ็บปวด
ทุกคืนผมนั่งมองความมืดในห้อง
รู้สึกเหมือนใจมันหล่นหายไปที่ไหนสักแห่ง
หรือแตกสลายไปหมดแล้วครับ
มือหนึ่งกำโทรศัพท์แน่น อีกมือหนึ่งปาดน้ำตา
ที่ไม่รู้จะไหลออกมาเพื่ออะไร
เพราะไม่มีข้อความ ไม่มีสายโทรกลับ
ไม่มีคำอธิบาย ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ
ผมอยากจะกรีดร้อง อยากจะถามว่า
ผมทำผิดอะไร ทำไมเขาถึงจากไปแบบไม่มีเหตุผล
ทำไมเขาถึงทิ้งผมไว้กับความทรมานนี้
ทำได้แค่คิดแล้วคิดอีก คิดซ้ำ ๆ ๆ
แม่ง…
พอนึกถึงตัวของตัวเองในตอนนั้น
ผมอยากจะเดินไปตบหัวซะที 555
แต่ก็ต้องขอบคุณแม่ของผมครับ
ที่ได้มาด่าและสอนให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าตอนนั้น
และแกร่งกว่าเดิม
เอาล่ะ…เล่าต่อ
แต่สุดท้าย ผมก็ได้แต่เงียบ
ได้แต่ปล่อยให้ความเจ็บค่อย ๆ ซึมลึกลงไป
เหมือนน้ำกรดที่ไหลผ่านหัวใจ
แล้วกัดกินจนมันพรุนไปหมด
แล้ววันหนึ่ง…
ผมตื่นขึ้นมาและรู้สึกว่า
ผมไม่สามารถทนกับความเจ็บปวดนี้ได้อีกแล้ว
ผมเหนื่อย เหนื่อยกับการร้องไห้
เหนื่อยกับการรอคอยคนที่ไม่เคยกลับมา
เหนื่อยกับการหวังให้ใครสักคนมารักษาแผลใจให้ผม
ผมจึงหยิบความเจ็บนั้นขึ้นมา
กอดมันไว้ แล้วบอกกับตัวเองว่า—
แผลนี้จะไม่หาย
แต่ผมจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน
ผมจะไม่ซ่อนมันไว้
แต่จะเผชิญหน้ากับมัน
ยอมรับมันในฐานะเครื่องหมายว่า
ผมเคยรัก และผมเคยเจ็บ
และมันคือบทเรียนที่สอนให้ผมรักตัวเองมากกว่าที่เคย
เพราะบางที
ความรักที่ทรงพลังที่สุด ไม่ใช่การรักใครสุดหัวใจ
แต่คือการรักตัวเองให้มากพอ
ที่จะปล่อยมือจากความสัมพันธ์ที่ทำร้ายเรา