ถ้าจำไม่ผิด ประมาน ตค 2022 เจอพี่เจมส์ ครั้งแรกที่ สัปดาห์หนังสือ เดินผ่านซุ้ม แล้วสะดุดตากับ หนังสือ 1 ปี อเมริกา ………
และ แวะหยิบ พี่เจมส์ก็ ปรากฏตัว แบบ ตกใจมาก ก็มาถามอายุ และ ฮาดเซลล์แนะนำหนังสือไม่หยุด ……… นั่นคือจุดเร่ิมต้น ที่ซื้อหนังสือ ของพี่ ( ในใจรู้สึกว่า พี่ขี้โม้จังวะ และ ยังไม่รู้ด้วยว่า พี่คือ คนเขียน จนพี่เซนต์หน้าปกให้) ถึงจะเอ๊ะ !!! ตอนนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การที่เรา crazy นักเขียน ต้องอยากได้ลายเซนต์ 55555555
พี่แนะนำให้เราเริ่มอ่านจาก route 13 ก่อน แล้วค่อย ย้อนไปอ่าน 1 ปี เมกา
เพื่อที่จะได้อินกับ เจมส์ที่ อายุเท่าๆกับเราตอนนี้ แล้ว พอย้อนไปอ่านจะได้เก็ทว่า ทำไมเด็กคนนี้ถึง โตมาเป็นแบบนี้
พออ่านจบ ทั้ง 4 เล่ม มันทำให้ เกิดแรงผลักดันอะไรบางอย่าง
>>> เรื่องเครียดในใจหนูตอนนั้นคือ
ตอนนั้นอายุ 30 กำลังอยู่ในช่วง ตัดสินใจจะลาออก จากงานประจำ (เป็น producer กองถ่ายโฆษณา) และ รู้สึก อยากย้ายประเทศ มากๆ เพราะการเมืองยุคลุงตู่สุดจะเน่า+
หมดไฟใน สายงานเดิม แต่ก็ ยังมองไม่ออกว่าตัวเองควรไป เริ่มใหม่กับอะไรดี
สิ่งเดียวที่รู้สึก คือ อยากหนี จากประเทศนี้ไป ไกลที่สุด ณ ตอนนั้น คือ มี visa ท่องเที่ยว เมกาที่เคยทำไว้ตอน 2017 ยังเหลืออยู่
เลยเอาเงินเก็บที่มี ไปสมัครเรียนภาษา จ่ายตังเรียบร้อย เพื่อผูกมัดตัวเองว่า ปีหน้ากูจะลาออก และ ไปเรียนภาษาสัก 3 เดือน จิงๆ
เรียนจบ ถ้ากูพูดคล่อง อย่างน้อยก็มีสกิล ภาษากลับมา หาอย่างอื่น ที่ไม่ใช่ producer ทำวะ !!
แต่พอเอาเข้าจริง ความที่ดันทุรังไป ทั้งๆที่เพิ่งแต่งงานได้ใหม่ๆ
บวกกับ สภาวะจิตใจยังไม่นิ่ง ไปได้ 10 กว่าวัน ทนความ homesick ไม่ไหว
ร้องไห้กลับบ้าน และ ขอ refund ทุกอย่าง ที่พัก และ ค่าเรียน ได้มา 30%
จองตั๋วกลับบ้าน 10 กว่า ผลาญเงินไปหลักแสน TT
กลับมาไทย พร้อมกับวันที่ ผลโหวต พิธาได้เป็น ว่าที่นายก
และหลังจากนั้น สมอง ก็ ดิ่งดาวน์ เป็นปีๆ ใช้ชีวิตไม่ได้เลย กลับไปรันงานไม่ไหว เพราะรู้สึก
ตัวเองไม่เก่ง อายคน ที่ตัวเองทำไม่สำเร็จ เครียด จนต้องพบจิตแพทย์
และ บอกตรงๆว่าช่วง 1 ปีที่หยุดงาน มีเวลา เลยไล่อ่านหนังสือของพี่……….
หนังสือ ของพี่ เหมือนเรามีเพื่อนที่เป็นเหมือนเรา
ในอีกมิติ หนึ่ง เพราะ ตัวละคร มันมีภาวะ คล้ายๆกัน ในแต่ละช่วงชีวิต
จน ทำให้เราคิด ว่า ใครๆ ก็คงเจอ สภาวะ เหล่านี้กันหมด แค่ต่าง บริบทกันไป
ก่อนหน้านี้ ไม่ได้เปิด public IG เลยไม่เคยได้ รีวิว แต่ ตามฟอลโล่วพี่ในทุกๆ แพลตฟอร์ม อยู่ห่างๆ
จนวันนี้ อ่าน south dakota จบ ยิ่งรู้สึกตอกย้ำว่า ควรขอบคุณพี่จริงจัง
ที่สุดท้าย ทำตามความฝันเป็นนักเขียนได้ จริงๆ ถ่ายทอดมันออกมา ให้คนอื่นๆ ได้อ่านได้เข้าใจ ว่า ชีวิต มันก็เป็นแบบนี้ แหละ :))) จบ
สำหรับ หนู เล่ม South dakota มันน่าติดตามมากกว่าเล่มไหน
คงเพราะ รอนาน และ คาดหวัง สเน่ห์การเล่าเรื่อง ( ที่ไม่ผิดหวังจริงๆ )
555 อารมณ์ เหมือนกับ รอการ์ตูนเล่มใหม่ออก เพราะอ่านตอนอื่นจบแล้ว
ซึ่ง ด้วยวัยของพี่เจมที่ถ่ายทอดมาในเล่มนี้
อ่านแล้วมันรู้สึกได้ถึง การเขียนย้อนกลับไปเล่า
ช่วงชีวิต ตอนฝึกงาน มันเป็นวัยที่ ทุกคนต้องเจอประสบการณ์ อะไรแบบนี้ สักครั้งในชีวิต และ ความยาก ของชีวิต มันคงเป็นเรื่อง การเปลี่ยนแปลง อะไร
ที่เราก็เดาไม่ออกว่าจะต้องไปเจอกับอะไรบ้าง เลยเกิดความกังวล มหาศาล
ที่บอกว่า เหมือนไปนั่งอยู่ในใจคนอ่านเลย ก็คือ เจอเหมือนกัน 5555 วันที่ชีวิตมืดมน
แล้วก็เกลียดตัวเองเหลือเกิน ว่าทำไมนะ ทำไมกูต้องตกอยุ่ในที่นั่งแบบนี้อีกแล้ว
และพี่ก็เก่งเหลือเกิน ที่อดทน กับ อะไร ที่พอมองย้อนไปแล้วมันบ้าบอ ใช้ได้เลย ด้วยเงื่อนไข ของชีวิต ตอนนั้น นะ…